6. ตลาดห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์–52

  • โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
  • 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • Tweet

  • กำหนดให้ผู้แทนขายสินค้า นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้น มากรอกในแบบฟอร์มขอวางเครื่องตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติ (Automatic analyzer) ซึ่งจะมีการคำนวณค่าผลตอบแทนของการลงทุน (Return on investment: ROI) ในแบบฟอร์มด้วย โดยผู้บริหารจะอนุมัติ (Approve) เฉพาะรายที่ก่อให้เกิดผลกำไร (Profitable) แก่บริษัทฯ อีกทั้งจะต้องเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (Reliable) เท่านั้น
  • เมื่อมีการตกลงซื้อขายสินค้า จะต้องมีการซื้อขายระหว่างลูกค้ากับบริษัทฯ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 4 ปี โดยอ้างอิง (Reference) จากธุรกิจเดิมที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ เป็นวิธีการที่สามารถดำเนินการได้และลูกค้าให้การยอมรับ (Accept) เงื่อนไข (Condition) ดังกล่าวด้วยดี
  • ติดตาม (Follow up) ปริมาณการซื้อขายของลูกค้าแต่ละราย ผ่านการนัดประชุมติดตามยอดขาย เป็นรายเดือน (Monthly meeting) โดยมีผู้จัดการธุรกิจและผู้แทนขายเข้าร่วมประชุม และร่วมกันวางแผน (Panning) และแนวทางแก้ไข (Remedy) เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น หรือหากเกิดภาวะการหยุด (Cease( ซื้อขายในลูกค้ารายใด จะต้องดำเนินการแก้ไขโดยหาลูกค้าเป้าหมาย (Target customer) รายใหม่โดยเร่งด่วน (Urgently)
  • ควบคุมงบประมาณ (Budget control) ค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด ไม่ใช้งบประมาณรายจ่าย เกินกวาที่กำหนด โดยผู้บริหารธุรกิจเป็นผู้ควบคุมและพิจารณา (Consider) ในการอนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณ ในการดำเนินธุรกิจทั้งหมด

3. การเก็บเงินชำระหนี้ไม่ได้ภาวะหนี้สูญ – การขายสินค้าและบริการให้แก่ห้องปฏิบัติการ หรือโรงพยาบาลอาจมีการให้สินเชื่อ (Credit) ใน การชำระเงินประมาณ 30 วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บเงิน (Collection) หรือการไม่สามารถจัดเก็บเงินได้ หลังจากได้ส่งมอบ (Delivery) สินค้าแก่ลูกค้าแล้ว ผู้วิจัยได้วางแผนวิธีการป้องกนความเสี่ยงดังกล่าวไว้ดังนี้

  • ตรวจสอบ (Examine) ข้อมูลการซื้อสินค้าและบริการของลูกค้าแต่ละราย ก่อนการดำเนินการซื้อขาย โดยผู้ควบคุมดูแลในส่วนนี้ได้แก่ผู้ให้บริการบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehousing) และการขนส่ง (Distribution) เป็นผู้รับผิดชอบ (Responsible) และแจ้งเตือน (Warning) ในกรณีที่มีการผิดนัดชำระ (Default) ของลูกค้า ก่อนการซื้อขาย
  • ถ้าหากลูกค้ามีการผิดนัดชำระ หรือมีประวัติการผิดนัดชำระ จะไม่ดำเนินการจัดส่งสินค้า หรือซื้อขายสินค้าแก่ลูกค้ารายนั้น จนกว่าจะได้ชดเชย (Make up) หรือชำระค่าสินค้าและบริการที่ได้มีการติดค้าง (Outstanding) ไว้ให้เสร็จสิ้นก่อน โดยอาจนำเสนอวิธีการผ่อนชำระ (Installment) ค่าสินค้าในกรณีที่ลูกค้าไม่มีความสามารถชำระค่าสินค้าที่ติดค้างไว้ได้ทั้งหมด (Entirely)
  • ในกรณีลูกค้าไม่เคยมีประวัติการซื้อสินค้าและบริการมาก่อน จะรับชำระสินค้าเป็นเงินสด (Cash) เมื่อจัดส่งสินค้าเท่านั้น

แหล่งข้อมูล –

  1. https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/769 [2025, February 27].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Marketing_plan [2025, February 27].